โสมเกาหลี มีประสิทธิภาพเป็นยากระตุ้นหรือยาบำรุงดีกว่ายาบำรุงชนิดอื่นๆ ที่นักบินอวกาศโซเวียตเคยใช้ เพราะโสมมีประสิทธิภาพเสริมสร้างความตื่นตัวดีกว่า แอมเฟตตามิน โดยไม่มีผมข้างเคียงของอาการเมาค้าง ทำให้นักบินอวกาศปฎิบัติหน้าที่ในอวกาศอย่างสำเร็จลุล่วง
ผู้เชี่ยวชาญด้านอวกาศ รายงานหลักปฎิบัติภารกิจในอวกาศเมื่อปี คศ.1970
โสมเกาหลี มีปฎิกิริยาเร่งระบบฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังใช้กำลังอย่างหนัก ทั้งยังขจัดความอ่อนล้าและมีประสิทธิภาพเพิ่มความต้านทานให้แก่ร่างกายจากอิทธิพลไม่พึงประสงค์ภายนอก
ศ.โกโรบ๊อบ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพและการกีฬาเลกกร๊าฟต์ของโซเวียต
จดหมายของ ฟาเธอร์ จาร์โธซ์ บาทหลวงชาวฝรั่งเศส กล่าวว่าฉันรู้สึกว่าชีพจรเต้นแรงและเร็วขั้น มีความกระชุ่มกระชวยมาก สามารถทำงานหนักได้มากขึ้นและเบาแรงกว่าแต่ก่อนหลังจากได้ทานโสมจำนวนหนึ่ง ระหว่างสำรวจพื้นที่ชายแดนเขตประเทศจีนกับเกาหลี
ข้อมูลจากสมาคมแพทย์แห่งลอนดอน เมื่อปี 1714
คนไข้ที่ไม่มีทางรอดแน่แล้วหลายสิบราย สามารถยืดชีวิตออกไปได้อย่างน้อยสุดก็ระยะหนึ่งเมื่อบริโภค โสม ทำให้พวกเขามีเวลาจัดการเรื่องใดๆ ตามที่ตนปรารถนา
ดร. พอร์เตอร์ สมีธ สมาชิกสมาคมแพทย์ศาสตร์แห่งอังกฤษ
คนไข้รายหนึ่งมีอาการผายผอมและเป็นโรคจับไข้เรื้อรัง รวมทั้งมีแผลอักเสบในปอดทั้งสองข้าง ฉันได้ให้โสมร่วมกับน้ำนมวัวทุกเช้า จากนั้นพบว่าเขาเริ่มมีเนื้อหนังกลับคืนมาอีกครั้ง อาการเบื่ออาหารเริ่มหายไป ผิวพรรณกลับคืนมาอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งๆ ที่ญาติมิตรต่างหมดหวังแล้วการคืนสู่สภาพเดิมทำให้เขาได้รับฉายยาว่า ลาซารัสที่สอง
ดร. วิดดี้ สมาชิกสมาคมแพทย์ศาสตร์แห่งอังกฤษ
มีการนำโสมมาใช้เป็น ยาหลัก ในการป้องกันการเป็นหมันในคู่สมรสกันอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะกับปัญหาเชื้ออสุจิไม่แข็งแรงและผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นหมัน
ดร. เจฟฟรีย์ บรรณาธิการหนังสือการแพทย์แผนจีน
ได้ตั้งฉายาแก่ โสม ว่า รากแห่งสมรรถภาพแห่งความรักและโสมยังให้ความอบอุ่นความกระปรี้กระเปร่าแก่โลหิต ทั้งยังให้ความกระชุ่มกระชวยแก่หัวใจเหนือกว่ายาบำรุงอื่นใดทั้งมวลช่วยให้มีอายุยืนยาวอย่างเป็นสุข และที่สำคัญโสมช่วยให้ผู้สูงอายุมีจิตใจอ่อนโยน มีอารมณ์สนุกสนานและมีอารมณ์ขันอยู่เนืองนิจ
วิลเลี่ยมเบริ์ด นักประพันธ์และสมาชิกสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งอังกฤษ
บันทึกรายงานเกี่ยวกับสรรพคุณที่มหัศจรรย์ของ “ชาโปนิน” ในรากโสมเกาหลีจากการประชุม Internation Ginseng Symposium ครั้งที่ 3
การประชุมซิมโปเซี่ยมโสมเกาหลีระหว่างประเทศ มีศาสตราจารย์และนักวิจัยจำนวนกว่า 2500 คน จาก 30 ประเทศ มาประชุมร่วมกันได้มีการรายงานผลการวิจัยอย่างกระตือรือล้น
ผลการรายงานจากญี่ปุ่น
การวิจัยเกี่ยวกับส่วนประกอบของโสมที่ทำให้ระดับเบาหวานลดต่ำลงจากศาสตราจารคิมูร่า มาซายาสุ แห่งสถาบันโตมิยาม่า กล่าวว่า “ส่วนประกอบสำคัญในรากโสมคือ สารโปนิน กลัยโคไซค์ และชนิดที่มีฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือดคือ DPG.3-2 ซึ่งผลการพิสูจน์ได้ยืนยันว่าเป็นสารที่กระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนอินซูลิน” รายงานจากศาสตราจารโอกุดะ ตากุมิจิ จากมหาวิทยาลัยไอจิ เกี่ยวกับส่วนประกอบของโสมที่มีฤทธิ์ในการรักษาโรคเบาหวาน “ผลของการให้คนไข้โรคเบาหวาน 21 คนรับประทานโสมเป็นเวลา 3 เดือนปรากฎว่า 12 คนได้ผลดีมาก ส่วนอีก 9 คนร่างกายกำลังฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง” ทำให้รู้ว่าสารที่มีคุณสมบัติคล้ายอินซูลินอยู่ ที่นอกเหนือไปจากสารชาโปนินการวิจัยยังพบสารสรรพคุณเกี่ยวกับฤทธิ์ทางด้านการเผาผลาญอาหารที่เกี่ยวกับต่อมเอ็นโดไครน์ชาโปนิน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของ รากโสมเกาหลี
ยามาโมโต้ มาซาฮิโร่หัวหน้าแผนกอายุรศาสตร์แห่งโรงพยาบาล ฮิอุ รายงานว่า “ส่วนประกอบของ โสมเกาหลี มีฤทธิ์ด้านการเผาผลาญอาหารซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมน” และมีการวิจัยเกี่ยวกับคุณสมบัติของสารชาโปนินกันอย่างละเอียดต่อไปอีก
ผ.ศจ.ฮิโก ซุซุมุ แห่งสถาบันวิจัยโบราณของญี่ปุ่น จากมหาวิทยาลัยการแพทย์และเภสัชโตมิยาม่า เป็นผู้พิสูจน์อย่างแน่ชัดว่า ปฎิกิริยาของสารชาโปนินในรากโสมเกาหลี มีฤทธิ์เพิ่มการสังเคราะห์ฮอร์โมนอาดรีนัลคอร์เท็กซ์ ของอาดรีนัลคอร์เท็กซ์ (หมวกไต)
รายงานเกี่ยวกับฤทธิ์ที่ทำให้มีอิทธิพลต่อหน้าที่การทำงานของระบบไหลเวียน โดยคาเนโกะ ฮิโตชิ หัวหน้าแผนระบบไหลเวียนจากโรงพยาบาลกาชาดมัทสุยาม่า “เมื่อให้โสมในปริมาณมากพบว่าการบีบรัดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจจะเพิ่มขึ้นและทำให้หลอดปลายทางที่อวัยวะต่างๆ ขยายตัวทำให้มีผลเป็นการลดภาระของโลหิตทางอ้อม”
โสมเกาหลีได้พิสูจน์แล้วว่ามีผลดีเยี่ยมตามโรงพยาบาลต่างๆ ในญี่ปุ่น
โรงพยาบาลอิชชิน
ให้คนไข้ที่เป็นโรคเบาหวาน ทานโสมควบคู่ไปกับการรักษา ใช้ขี้ผึ้งที่ทางโรงพยาบาลปรุงขึ้น โดยผสมโสมรักษาคนไข้ที่เป็นแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกและแผลผุฟองต่างๆ ให้คนไข้ที่เป็นเนื้องอกในระบบทางเดินอาหารดื่มโสมในปริมาณมากๆ เพื่อป้องกันพิษร้ายของสารกัมมันตรังสี และเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงเร็วขึ้น สำหรับคนไข้รายอื่นๆ นั้นนอกจากให้ทานยาอย่างเดียวแล้ว ยังได้ดื่มโสมร่วมด้วยปรากฏว่าได้ผลดีมากทั้งสองกรณี
โรงพยาบาลกาชาดมัทสุยาม่า
ได้ผลดีมาก 50-90% ในการให้คนไข้ที่อาการหนักจากสาเหตุการไหลเวียนของโลหิตไม่ดีได้ดื่มโสม
โรงพยาบาลประจำจังหวัดโตมิยาม่า
ได้ผลในทางที่ทำให้คนไข้มีอายุยืนยาวขึ้น โดยการให้คนไข้เนื้องอกจำนวน 42 คนดื่มโสม
โรงพยาบาลโอซาก้าฮิอุ
ได้ใช้โสมกับผู้ป่วยได้รับสารกัมมันตภาพรังสี ปรากฏว่าทำให้จำนวนเม็ดโลหิตเพิ่มขึ้น และฟื้นฟูคืนสู่ระดับปกติของเม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือด